ฟังให้ได้ผล! ทริคเด็ดสำหรับการนั่งฟังการสอนยาวๆ โดยไม่เบื่อ
การนั่งฟังการสอนหรือการบรรยายนานๆ มักจะทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกเบื่อ เหนื่อย และสมาธิหลุดกลางคัน จนบางครั้งพลาดเนื้อหาสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ! บทความนี้มีทริคเด็ดๆ ในการฟังให้ได้ผล ที่จะช่วยให้คุณนั่งฟังได้นานขึ้นแบบไม่เบื่อเลย มาดูเคล็ดลับ
ตั้งเป้าหมายการฟังแบบกระชับๆ
- ก่อนเริ่มฟังการสอน ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ว่าเราอยากจะได้อะไรจากการฟังครั้งนี้ เช่น จุดสำคัญที่ต้องเข้าใจ หรือคำถามที่อยากได้คำตอบ การมีเป้าหมายจะช่วยให้เรามีโฟกัสและทำให้รู้สึกว่าเวลาไม่นานจนเกินไป
สรุปย่อไว้เสมอ
- การจดโน้ตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สมองของเรามีส่วนร่วมกับการฟังค่ะ แนะนำให้จดสรุปหรือคำสำคัญของแต่ละหัวข้อแบบย่อๆ แค่คำหลักหรือสัญลักษณ์ที่เข้าใจเองก็พอ การจดโน้ตนอกจากช่วยให้เราจดจ่อแล้ว ยังทำให้เรากลับมาทบทวนได้ง่ายขึ้นด้วย
ฝึก Active Listening
- Active Listening หรือการฟังอย่างตั้งใจ คือการฟังแบบตั้งคำถามในใจและคิดตามตลอดเวลา เช่น “อันนี้เกี่ยวกับอะไรนะ?” หรือ “เราจะเอาไปใช้อย่างไรได้บ้าง?” การฟังแบบนี้ช่วยกระตุ้นความสนใจ และทำให้สมองไม่หลุดไปคิดเรื่องอื่น
แบ่งเวลาฟังเป็นช่วงๆ (ใช้เทคนิค Pomodoro)
- เทคนิค Pomodoro แบ่งเวลาทำงานหรือเรียนเป็นช่วง เช่น ฟังไป 25 นาที พัก 5 นาที เพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าและให้สมองได้พักช่วงสั้นๆ ลองปรับให้เข้ากับเวลาฟังของเรา จะช่วยให้สมองสดชื่นและรับข้อมูลได้นานขึ้น
เตรียมพร้อมด้วยการพักผ่อนและดื่มน้ำ
- สมองต้องการออกซิเจนและการไหลเวียนของเลือดที่ดีในการทำงาน การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการง่วงซึมและปวดหัวเล็กๆ ได้ ดังนั้น การเตรียมตัวด้วยการนอนหลับให้เพียงพอและมีน้ำดื่มอยู่ใกล้มือจะช่วยให้การฟังมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- การฟังการสอนในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มีเสียงรบกวน และอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยลดความเบื่อหน่ายและทำให้สมาธิดีขึ้น นอกจากนี้ ลองใช้เก้าอี้ที่นั่งสบายหรือจัดตำแหน่งหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยระหว่างการฟังได้ดี
ให้รางวัลตัวเอง
- หลังจากการฟังที่ตั้งใจมาตลอด ลองให้รางวัลตัวเองเล็กๆ เช่น ของทานเล่น หรือกิจกรรมที่ชอบ เช่น การพักผ่อน เล่นโซเชียล หรือฟังเพลงโปรด การให้รางวัลเล็กๆ นี้ช่วยสร้างแรงจูงใจ ทำให้เราอยากจะตั้งใจฟังมากขึ้นในครั้งต่อไป
หาเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเนื้อหา
- เมื่อเราเชื่อมโยงเนื้อหากับประสบการณ์หรือความสนใจของเราเอง จะช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น เช่น หากเรียนเรื่องประวัติศาสตร์ อาจเชื่อมโยงกับหนังที่เคยดู หรือหากเรียนเรื่องการจัดการ ลองนึกถึงสถานการณ์ที่เราเคยเจอ วิธีนี้จะช่วยให้เราเข้าใจและรู้สึกสนุกไปกับเนื้อหา
พักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ
- สำหรับคนที่เรียนออนไลน์หรือฟังบรรยายผ่านหน้าจอ ควรพักสายตาทุก 20 นาทีโดยมองไปไกลๆ สัก 20 วินาที เพื่อลดความตึงเครียดของสายตา วิธีนี้จะช่วยลดความล้าและทำให้เราสามารถโฟกัสกับเนื้อหาได้นานขึ้น
ฝึกยืดเหยียดเบาๆ ระหว่างฟัง
- การขยับร่างกายเบาๆ เช่น ยืดกล้ามเนื้อไหล่ หมุนคอ หรือลุกยืนเดินสักครู่จะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกตึงหรือเมื่อยระหว่างฟัง ช่วยให้สมาธิดีขึ้นและช่วยให้เราสนุกไปกับการเรียนรู้
การนั่งฟังการสอนให้นานขึ้นอาจเป็นความท้าทายสำหรับหลายคน แต่ด้วยเทคนิคเหล่านี้ เราจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้สึกเบื่อน้อยลง หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้การฟังของคุณสนุกขึ้น และทำให้คุณได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเรียนรู้ทุกครั้ง
พร้อมฟังนานแค่ไหนก็ไหว! วิธีเพิ่มสมาธิและลดความเบื่อในการเรียนรู้
เคยไหมครับ? ตั้งใจจะฟังเต็มที่ แต่ไม่นานก็เบื่อ หรือสมาธิหลุดกลางทางซะแล้ว! ใครที่ต้องนั่งเรียนหรือนั่งฟังบรรยายยาวๆ แล้วเจอปัญหาแบบนี้บ่อยๆ ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้ผมจะมาแชร์วิธีเพิ่มสมาธิและเทคนิคที่ช่วยให้เราฟังได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ ให้พร้อมรับความรู้กันแบบเต็มที่
เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในใจ
- ก่อนจะเริ่มเรียนหรือฟังอะไรยาวๆ ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆ ให้ตัวเองครับ เช่น “วันนี้อยากเข้าใจหัวข้อสำคัญอันไหนบ้าง?” หรือ “มีประเด็นอะไรที่ต้องเอาไปใช้จริงได้บ้าง?” การตั้งเป้าหมายช่วยให้เรามีโฟกัสและรู้สึกมีทิศทาง จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องฟังไปเรื่อยเปื่อยจนเบื่อนั่นเองครับ
จดโน้ตด้วยภาษาของตัวเอง
- เวลาเราได้ยินเนื้อหายาวๆ จะจำได้ดีขึ้นถ้าเราจดมันออกมาครับ แต่ไม่จำเป็นต้องจดทุกคำ เอาแค่ประเด็นหลักๆ สั้นๆ พอ แล้วลองใช้คำที่เราเข้าใจแทน จะทำให้สมองเราจับประเด็นและจดจำได้ดีกว่าการจดตามทุกคำ อีกทั้งยังช่วยให้เราไม่รู้สึกเบื่อเร็วเพราะได้มีส่วนร่วมกับสิ่งที่ได้ยินครับ
ฝึก Active Listening หรือการฟังแบบตั้งใจ
- การฟังแบบตั้งใจไม่ได้แค่ฟังเฉยๆ แต่เราจะคิดตามเนื้อหาที่ได้ยิน คิดคำถามในใจหรือคิดตามว่าผู้พูดจะอธิบายอะไรต่อ การฟังแบบนี้ช่วยให้เราจดจ่อกับสิ่งที่ฟัง และทำให้เราไม่หลุดง่ายๆ ครับ
แบ่งเวลาเรียนด้วยเทคนิค Pomodoro
- เทคนิค Pomodoro คือการทำงานแบบแบ่งช่วง เช่น เรียน 25 นาที แล้วพักสั้นๆ 5 นาที หรืออาจเป็น 50 นาที พัก 10 นาที ถ้าคุณต้องฟังการบรรยายยาวๆ ก็ลองปรับมาใช้ดูครับ จะช่วยให้สมองได้พัก ทำให้เราไม่เบื่อเร็วและสามารถโฟกัสได้นานขึ้นด้วย
เตรียมความพร้อมให้ร่างกายและสมอง
- อาการง่วงหรือเบื่อมักมาจากร่างกายที่อ่อนล้าหรือขาดน้ำครับ ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับพักผ่อนให้พอเตรียมไว้ก่อนที่ต้องนั่งฟังเป็นเวลานาน น้ำช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนและทำให้สมองสดชื่น สมาธิดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะครับ
หาตำแหน่งนั่งที่สบายและเหมาะสม
- อย่านั่งทนกับเก้าอี้ที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบาย ลองหาที่นั่งที่นั่งแล้วรู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังต้องนั่งหลังตรงเพื่อให้สมองไม่หลุดง่ายๆ นะครับ หากเป็นการเรียนออนไลน์หรือทำงานจากหน้าจอ แนะนำให้ปรับความสูงของหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา จะช่วยให้ไม่ปวดคอและหลัง ทำให้ฟังได้นานขึ้นครับ
เพิ่มสีสันให้กับการฟังด้วยการวางแผนให้รางวัลตัวเอง
- รู้ไหมครับว่า การตั้งรางวัลเล็กๆ หลังการฟังหรือเรียนจบสามารถกระตุ้นสมองได้? เช่น บอกตัวเองว่า “ถ้าฟังจบจะได้กินขนมที่ชอบ” หรือ “จะได้เล่นเกมที่อยากเล่น” การมีรางวัลทำให้เราอยากจดจ่อกับสิ่งที่ทำมากขึ้นครับ
พยายามเชื่อมโยงเนื้อหากับชีวิตประจำวันหรือประสบการณ์ของเราเอง
- บางทีเนื้อหาที่ฟังอาจจะรู้สึกห่างไกลจากชีวิตจริง แต่ถ้าเราพยายามเชื่อมโยงกับชีวิตหรือสิ่งที่เคยประสบมา จะทำให้เราเข้าใจและจดจำได้ดีขึ้นครับ เช่น ถ้าเรียนเรื่องการบริหารจัดการ ลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุณเคยมีปัญหาเรื่องการจัดการเวลาของตัวเองก็ได้ครับ วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่รู้สึกว่าเนื้อหานั้นแปลกใหม่เกินไป ทำให้ฟังได้ง่ายและไม่น่าเบื่อครับ
ฝึกขยับหรือยืดกล้ามเนื้อเบาๆ ระหว่างฟัง
- ระหว่างการฟัง ลองขยับแขน ขยับคอ หรือบิดตัวเบาๆ ดูครับ วิธีนี้ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น สมองจะได้รับออกซิเจนเพิ่ม ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและสามารถโฟกัสได้ดีขึ้นครับ
ลองทบทวนเนื้อหาด้วยตัวเองหลังฟังจบ
- เมื่อฟังเสร็จ ลองสรุปหรือทบทวนสิ่งที่ได้ฟังสั้นๆ ด้วยตัวเอง อาจพูดออกมาหรือเขียนสรุปไว้ การทบทวนเนื้อหาช่วยให้สิ่งที่เราได้ยินเก็บอยู่ในสมองนานขึ้น และทำให้การเรียนรู้นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูครับ จะช่วยให้คุณพร้อมฟังและเรียนรู้นานแค่ไหนก็ไหว ไม่มีเบื่อแน่นอน หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะทำให้การฟังและการเรียนรู้ของคุณมีความสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น