บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2024

ฟังให้ได้ผล! ทริคเด็ดสำหรับการนั่งฟังการสอนยาวๆ โดยไม่เบื่อ

รูปภาพ
                        การนั่งฟังการสอนหรือการบรรยายนานๆ มักจะทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกเบื่อ เหนื่อย และสมาธิหลุดกลางคัน จนบางครั้งพลาดเนื้อหาสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ! บทความนี้มีทริคเด็ดๆ ในการฟังให้ได้ผล ที่จะช่วยให้คุณนั่งฟังได้นานขึ้นแบบไม่เบื่อเลย มาดูเคล็ดลับ ตั้งเป้าหมายการฟังแบบกระชับๆ ก่อนเริ่มฟังการสอน ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ว่าเราอยากจะได้อะไรจากการฟังครั้งนี้ เช่น จุดสำคัญที่ต้องเข้าใจ หรือคำถามที่อยากได้คำตอบ การมีเป้าหมายจะช่วยให้เรามีโฟกัสและทำให้รู้สึกว่าเวลาไม่นานจนเกินไป สรุปย่อไว้เสมอ การจดโน้ตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สมองของเรามีส่วนร่วมกับการฟังค่ะ แนะนำให้จดสรุปหรือคำสำคัญของแต่ละหัวข้อแบบย่อๆ แค่คำหลักหรือสัญลักษณ์ที่เข้าใจเองก็พอ การจดโน้ตนอกจากช่วยให้เราจดจ่อแล้ว ยังทำให้เรากลับมาทบทวนได้ง่ายขึ้นด้วย ฝึก Active Listening Active Listening หรือการฟังอย่างตั้งใจ คือการฟังแบบตั้งคำถามในใจและคิดตามตลอดเวลา เช่น “อันนี้เกี่ยวกับอะไรนะ?” หรือ “เราจะเอาไปใช้อย่างไรได้บ้าง?” การฟังแบบนี้ช่วยกระตุ้นควา...

ทำไมงานถึงทำให้เราปวดหัว? เผยสาเหตุและวิธีจัดการง่าย ๆ

รูปภาพ
                        หลายคนอาจเคยรู้สึกปวดหัวจนแทบทนไม่ไหวหลังจากทำงานนานๆ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดหนัก ใช้สายตาเยอะ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเครียดสูง มาดูกันว่าเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เราปวดหัวจากงานนั้นมีอะไรบ้าง และวิธีการรับมือที่ทำให้คุณผ่อนคลายขึ้นได้มีอะไรบ้าง สาเหตุที่ทำให้งานทำให้เราปวดหัว ความเครียดและความกดดันจากงาน เมื่อเรามีงานที่ต้องทำตามกำหนดเวลาที่ค่อนข้างแน่น หรือมีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเครียดสะสม ทำให้ร่างกายเกิดอาการปวดหัวได้ ความเครียดยังทำให้กล้ามเนื้อรอบศีรษะและคอตึงเครียด ส่งผลให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป การจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้เกิดอาการปวดตา ซึ่งส่งผลต่ออาการปวดหัวได้เช่นกัน แสงสีฟ้าจากจอยังทำให้ตาล้าและกระทบต่อการนอนหลับ ซึ่งส่งผลให้สมองและร่างกายไม่สดชื่น และเกิดอาการปวดหัวในที่สุด การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งหลังค่อมหรือการยื่นหน้าเข้าหาจอคอมฯ เป็นเวลานาน ส่...

เทคนิคฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ

รูปภาพ
                          การฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่การมีเทคนิคที่ดีจะช่วยให้คุณพัฒนาความมั่นใจอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือเทคนิคที่ทำตามง่ายและได้ผล 1. ฝึกออกเสียงเสียงดัง ลองอ่านออกเสียงดังเมื่อเรียนคำศัพท์หรือประโยคพื้นฐาน การฟังเสียงของตัวเองช่วยพัฒนาทักษะการออกเสียง ทำให้เกิดความคุ้นเคยกับภาษา 2. ฟังและเลียนแบบ ใช้แหล่งเสียงภาษาอังกฤษ เช่น วิดีโอ ยูทูป หรือพอดแคสต์ หัวใจของการฝึกคือการฟังประโยคแล้วเลียนแบบ ทั้งโทนเสียงและการออกเสียง จะช่วยให้สำเนียงและทักษะการพูดพัฒนา 3. พูดกับตัวเองหรืออัดเสียง หากยังไม่มีเพื่อนฝึก พูดกับตัวเองหน้ากระจกหรือบันทึกเสียงฟังซ้ำ สังเกตความผิดพลาดและพัฒนาตนเอง วิธีนี้ช่วยให้กล้าแสดงออกและฟังเสียงของตัวเองในภาษาอังกฤษ 4. ใช้คำง่ายและประโยคสั้น เริ่มจากคำศัพท์และประโยคสั้นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การแนะนำตัว การพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ทำให้พูดคล่องและมั่นใจมากขึ้น 5. ฝึกสนทนาผ่านแอปพลิเคชันหรือหาเพื่อนแลกเปลี่ยนภาษา แอปต่างๆ เช่น HelloTalk หรือ Speaky ช่วยหาคู่...

สร้างเอกลักษณ์ผ่านน้ำหอม DIY ที่บอกความเป็นตัวคุณ

รูปภาพ
                          การทำน้ำหอม DIY ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเลือกกลิ่นที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง แต่ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร ลองผสมน้ำหอมที่มีส่วนประกอบจากดอกไม้หรือผลไม้ที่ชื่นชอบ เช่น ลาเวนเดอร์เพื่อความผ่อนคลาย ส้มให้ความสดชื่น หรือกุหลาบเพื่อความหวานสดใส ด้วยการทดลองและค้นหากลิ่นที่ลงตัว คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้น้ำหอมที่สะท้อนถึงตัวคุณและรสนิยมที่แท้จริง ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำน้ำหอม DIY เลือกกลิ่นที่ชอบ: เลือกส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้หรือสมุนไพร แบ่งชั้นกลิ่น: แบ่งกลิ่นออกเป็น 3 ระดับ—Top, Middle, และ Base เพื่อสร้างมิติและความติดทน ทดลองและปรับแต่ง: ผสมส่วนผสมต่างๆ และปรับให้ได้กลิ่นที่คุณชอบที่สุด เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว: ใช้กลิ่นที่เป็นความทรงจำหรือมีความหมายพิเศษ เพื่อให้คุณรู้สึกพิเศษในทุกครั้งที่ใช้       การทำน้ำหอมใช้เองจะทำให้คุณสามารถออกแบบกลิ่นที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวคุณได้อย่างชัดเจน และเพิ่มความมั่นใจทุกครั้งที่ใช้น้ำหอมที่เป็นเ...

วิธีทำหมอน DIY ง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้

รูปภาพ
                         การทำหมอน DIY เองที่บ้านไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยให้เราได้หมอนที่เหมาะกับความต้องการส่วนตัว ทั้งในด้านขนาด รูปทรง และวัสดุที่เลือกใช้ 1. เลือกวัสดุ คุณสามารถเลือกวัสดุสำหรับทำหมอนได้หลากหลาย เช่น ผ้าฝ้าย ลินิน หรือผ้าไหม ซึ่งให้สัมผัสที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ใยสังเคราะห์หรือใยฝ้ายเป็นตัวเลือกที่ดีในการยัดหมอนเพื่อให้หมอนนุ่มสบาย คำแนะนำ : ควรเลือกผ้าที่ทนทานและระบายอากาศได้ดี เพื่อให้หมอนมีความทนทานและเหมาะสมกับสภาพอากาศ 2. ตัดผ้าและเย็บ วัดขนาดหมอนที่ต้องการ จากนั้นตัดผ้าให้มีขนาดตามต้องการ โดยทั่วไปขนาดมาตรฐานคือ 20x26 นิ้วสำหรับหมอนหนุน จากนั้นเย็บด้านข้างของผ้าเข้าด้วยกัน โดยเหลือช่องสำหรับยัดใยหมอนไว้ คำแนะนำ : ใช้จักรเย็บผ้าเพื่อความเรียบร้อย และหากไม่มีจักรก็สามารถเย็บด้วยมือได้เช่นกัน 3. ยัดใยหมอน เมื่อเย็บเสร็จแล้ว ให้ยัดใยหมอนเข้าไปในช่องที่เหลืออยู่ ปรับความแน่นของใยตามความต้องการ หากต้องการหมอนนุ่มให้ยัดใยน้อยลง แต่ถ้าต้องการหมอนแข็งให้ยัดใยเพิ่มขึ้น คำแนะนำ : ตรวจสอบให้แน...

ผลกระทบระยะยาวจากการดื่มน้ำอัดลมทุกวันต่อสุขภาพ

รูปภาพ
                        การดื่มน้ำอัดลมทุกวันอาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะเมื่อดื่มในปริมาณมากและเป็นประจำ น้ำอัดลมมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปยังส่งผลต่อสุขภาพของฟัน ทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้ โรคอ้วนและเบาหวาน น้ำอัดลมมีแคลอรีสูงจากน้ำตาลที่ไม่ได้ให้ประโยชน์ทางโภชนาการ การดื่มน้ำอัดลมทุกวันทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ คำแนะนำ : ควรลดการบริโภคน้ำอัดลม และหันมาดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทน สุขภาพฟัน น้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและกรดฟอสฟอริกสามารถทำลายชั้นเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุได้ง่าย และหากไม่ได้ดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างดี การดื่มน้ำอัดลมทุกวันอาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุและโรคเหงือกในระยะยาว คำแนะนำ : หากจำเป็นต้องดื่มน้ำอัด...