ทำไมงานถึงทำให้เราปวดหัว? เผยสาเหตุและวิธีจัดการง่าย ๆ
หลายคนอาจเคยรู้สึกปวดหัวจนแทบทนไม่ไหวหลังจากทำงานนานๆ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดหนัก ใช้สายตาเยอะ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเครียดสูง มาดูกันว่าเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เราปวดหัวจากงานนั้นมีอะไรบ้าง และวิธีการรับมือที่ทำให้คุณผ่อนคลายขึ้นได้มีอะไรบ้าง
สาเหตุที่ทำให้งานทำให้เราปวดหัว
ความเครียดและความกดดันจากงาน
- เมื่อเรามีงานที่ต้องทำตามกำหนดเวลาที่ค่อนข้างแน่น หรือมีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเครียดสะสม ทำให้ร่างกายเกิดอาการปวดหัวได้ ความเครียดยังทำให้กล้ามเนื้อรอบศีรษะและคอตึงเครียด ส่งผลให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก
การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป
- การจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้เกิดอาการปวดตา ซึ่งส่งผลต่ออาการปวดหัวได้เช่นกัน แสงสีฟ้าจากจอยังทำให้ตาล้าและกระทบต่อการนอนหลับ ซึ่งส่งผลให้สมองและร่างกายไม่สดชื่น และเกิดอาการปวดหัวในที่สุด
การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
- การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งหลังค่อมหรือการยื่นหน้าเข้าหาจอคอมฯ เป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อคอและหลังเกิดการตึงเครียด การอักเสบของกล้ามเนื้อเหล่านี้ส่งผลให้มีอาการปวดหัวตามมาได้
การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- การทำงานที่หนักจนละเลยการพักผ่อน นอนไม่พอ หรือนอนผิดเวลา ทำให้สมองไม่ได้ฟื้นฟูและเกิดอาการปวดหัวที่มาจากความอ่อนเพลียได้ง่าย การนอนที่ไม่เพียงพอยังส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและการทำงานของร่างกาย ทำให้ความคิดไม่สดใส ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการปวดหัวเรื้อรัง
การดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวขณะทำงาน เมื่อร่างกายขาดน้ำ การไหลเวียนของเลือดจะไม่ปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะหรือมึนงงระหว่างวันได้
วิธีจัดการอาการปวดหัวจากงานง่ายๆ ให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
จัดสรรเวลาพักระหว่างทำงาน
- ลองพักทุกๆ 1-2 ชั่วโมง โดยการลุกไปเดินเล่น หรือยืดกล้ามเนื้อเบาๆ ไม่ควรนั่งติดโต๊ะทำงานตลอดทั้งวัน การพักเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้นได้
ฝึกผ่อนคลายด้วยการหายใจลึกๆ
- เมื่อเริ่มรู้สึกเครียดหรือปวดหัวจากงาน ลองหยุดพักแล้วหายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ ประมาณ 5-10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบศีรษะและคอคลายตัว ลดความเครียด และบรรเทาอาการปวดหัวได้ดี
ปรับตำแหน่งการนั่งให้เหมาะสม
- นั่งเก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี และปรับระดับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ระดับสายตา พยายามนั่งให้หลังตรงและไม่ก้มคอมากเกินไป การจัดท่านั่งให้ถูกต้องจะช่วยลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอและบ่าได้ดี
ลดแสงสีฟ้าและพักสายตาเป็นระยะ
- ใช้โปรแกรมลดแสงสีฟ้าหรือติดฟิล์มกันแสงสีฟ้าที่จอคอมพิวเตอร์ รวมถึงพักสายตาจากหน้าจอทุก 20 นาที โดยมองไปไกลๆ หรือลุกขึ้นเดิน การพักสายตาช่วยให้ตาล้าลดลง ลดโอกาสเกิดอาการปวดหัวจากการใช้สายตานานๆ ได้ดี
ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดน้ำ
- ติดขวดน้ำไว้ใกล้ตัวและจิบบ่อยๆ ระหว่างวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ การดื่มน้ำที่เพียงพอช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ปกติและป้องกันการปวดหัวที่เกิดจากภาวะขาดน้ำ
พักผ่อนให้เพียงพอ
- การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สมองฟื้นตัวและลดอาการปวดหัวได้ ควรสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือหรือฟังเพลงเบาๆ เพื่อลดความเครียดสะสมจากวันทำงาน
จัดการกับงานที่มีความกดดัน
- ลองวางแผนการทำงานให้เป็นระบบ และแบ่งงานใหญ่ๆ ให้เป็นงานย่อยๆ ที่จัดการได้ง่ายขึ้น เมื่องานเริ่มเป็นระเบียบและมีแผนที่ชัดเจน ความเครียดก็จะลดลงตามไปด้วย ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวได้ดี
ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- การออกกำลังกายเล็กน้อยระหว่างวัน เช่น เดินขึ้นลงบันได หรือทำโยคะสั้นๆ ที่โต๊ะทำงาน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและลดอาการปวดหัวลงได้
การปวดหัวจากงานอาจเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเจอเป็นประจำ แต่เมื่อเราเริ่มต้นเข้าใจสาเหตุและรู้จักวิธีการจัดการอย่างเหมาะสม อาการปวดหัวจากการทำงานก็จะลดลง ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นในทุกวันค่ะ หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอาการปวดหัวจากงานได้อย่างง่ายดายและรู้สึกสบายตัวขึ้น
10 เทคนิคผ่อนคลาย ลดอาการปวดหัวจากงานใน 5 นาที
1. นวดจุดที่ขมับและต้นคอ
- เริ่มจากใช้ปลายนิ้วกดจุดที่ขมับทั้งสองข้าง แล้วนวดวนเป็นวงกลมเบาๆ สัก 1-2 นาที จากนั้นย้ายไปที่ต้นคอด้านหลังและนวดคลายกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง การนวดจุดต่างๆ นี้จะช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อรอบศีรษะและช่วยให้อาการปวดหัวทุเลาลง
2. หลับตาและหายใจลึกๆ
- ลองหลับตาและหายใจลึกๆ นับ 1 ถึง 4 ขณะหายใจเข้าและออก แล้วทำซ้ำ 5-10 ครั้ง การหายใจลึกๆ แบบนี้ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดการเต้นของหัวใจที่อาจเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความเครียด ช่วยให้อาการปวดหัวบรรเทาลงค่ะ
3. พักสายตาจากหน้าจอ
- ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วมองออกไปไกลๆ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย การพักสายตาแค่ 1-2 นาทีเป็นประจำช่วยลดการปวดตาและปวดหัวที่เกิดจากการจ้องจอนานๆ ได้ดีทีเดียวค่ะ
4. ดื่มน้ำเย็นสักแก้ว
- บางครั้งอาการปวดหัวเกิดจากการขาดน้ำ การดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้วสามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่นและบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลายอย่างง่ายๆ อีกด้วย
5. ฟังเพลงผ่อนคลาย
- ลองฟังเพลงเบาๆ ที่ทำให้รู้สึกสงบ เช่น เสียงธรรมชาติ เสียงคลื่นทะเล หรือเพลงบรรเลงที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย การฟังเพลงนี้จะช่วยให้สมองหยุดพักจากงาน และช่วยลดความเครียดได้ในทันที
6. นวดรอบดวงตา
- ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางนวดเบาๆ บริเวณเบ้าตาและรอบดวงตา โดยนวดวนเบาๆ เป็นวงกลม 1-2 นาที ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดรอบดวงตาได้อย่างดีค่ะ
7. ยืดกล้ามเนื้อคอและไหล่
- ท่าบริหารง่ายๆ เช่น ก้มศีรษะไปทางด้านข้างให้รู้สึกตึงที่คอ หรือยืดกล้ามเนื้อไหล่โดยการยกไหล่ขึ้นและหมุนเป็นวงกลม การยืดกล้ามเนื้อช่วยลดความตึงของคอและไหล่ที่เกิดจากการนั่งทำงานนานๆ และบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างง่ายดายค่ะ
8. กลิ่นน้ำมันหอมระเหยช่วยผ่อนคลาย
- น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ เปปเปอร์มินต์ หรือยูคาลิปตัส เป็นกลิ่นที่มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลาย นำมาแตะที่ขมับหรือสูดดมเบาๆ จะช่วยให้สมองผ่อนคลายและลดความเครียดลง ทำให้อาการปวดหัวเบาบางลงได้
9. ใช้ถุงเย็นหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบที่ศีรษะ
- ถ้าปวดหัวมากๆ ลองใช้ถุงเย็นหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบที่หน้าผากหรือรอบศีรษะประมาณ 2-3 นาที ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างรวดเร็วและลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อค่ะ
10. เปลี่ยนท่านั่งให้ถูกต้อง
- ลองนั่งหลังตรงและวางเท้าให้ราบกับพื้น อย่าเกร็งคอหรือบ่า ท่านั่งที่ถูกต้องช่วยลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอและหลังได้มาก ทำให้อาการปวดหัวลดลงและช่วยให้ทำงานต่อได้โดยไม่ต้องรู้สึกทรมาน
เทคนิคง่ายๆ ทั้ง 10 ข้อนี้ใช้เวลาน้อยและทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่บ้าน ลองเลือกเทคนิคที่เหมาะกับคุณและปฏิบัติเป็นประจำ รับรองว่าอาการปวดหัวจะลดลง แถมยังช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายให้กับตัวเองอีกด้วยค่ะ หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการจัดการกับอาการปวดหัวจากงาน
ถ้าเกิดชอบอยากสนับสนุนสามารถโอนเงินสนับสนุนได้
ผ่านทรูมันนี่ วอเล็ต เบอร์ 094-758-3426
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น